ReadyPlanet.com
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 18 คน
dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
dot

ราคาสินค้า
หมวดสินค้า
ยี่ห้อสินค้า

  [Help]
dot
สินค้าทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
 ยาอม/ยาดม/ยาหม่อง
ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก
ว่านหางจระเข้ Aloe Vera เจลว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้รักษาสิว ครีมว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ทาหน้า สรรพคุณว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้พอกหน้า
ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก
ให้เช่าพื้นที่โฆษณาโดยร้านขายยาคลีนิกยาเว็ปไซต์อันดับหนึ่งจัดอันดับโดย google.co.th


ตกขาวคืออะไร ทำไมถึงเป็น รักษาอย่างไง

 แหล่งข้อมูลบทความเกี่ยวกับยา วิธีการใช้ยา ยาใหม่ และความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์

TAG : ขายยาส่ง  ขายส่งยา ร้านขายยา เปิดร้านขายยา เปิดคลีนิก ลดน้ำหนัก

 

 

 

ตกขาว (Leucorrhea หรือ Leukorrhea) คือ สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกรานไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูกหรือแม้กระทั่งจากตัวมดลูกเอง

 

ตกขาวอาจเป็นอาการปกติหรืออาการผิดปกติก็ได้ ลักษณะของตกขาวปกติคือตกขาวจะมีลักษณะเปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือนโดยขึ้นกับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตโรน (Progesterone) จะมีลักษณะใสไม่มีสีหรือเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่ก่ออาการคัน

ตกขาวปกติจะพบมากได้ในช่วงกลางของรอบประจำเดือนหรือขณะตั้งครรภ์ และจะมีการหลั่งของเมือกในช่องคลอดมากขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์

ตกขาวที่ผิดปกติเป็นอย่างไร?

ตกขาว

 

 

ลักษณะของตกขาวที่ผิดปกติจะดูได้จาก

  1. ปริมาณที่มากขึ้นจนทำให้บางครั้งต้องใช้ผ้าอนามัย
  2. ลักษณะของสีที่ผิดปกติไปจากเดิมเช่น จากใสไม่มีสีหรือสีขาว เป็นสีเหลือง สีเขียว หรือเป็นลักษณะข้นจับตัวเป็นก้อน หรือมีลักษณะเป็นฟอง หรือเป็นมูกเลือด
  3. มีกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิมเช่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเน่าหรือมีกลิ่นคาวมาก
  4. มีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วยเช่น มีอาการคันอวัยวะเพศ หรือบางครั้งมีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย หรือมีแผลในบริเวณอวัยวะเพศ

สาเหตุตกขาวเกิดจากอะไรได้บ้าง?

 

สาเหตุของตกขาวผิดปกติส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด และมักเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งที่พบบ่อยเกิดได้จาก

  1. เชื้อรา
    • ตั้งครรภ์
    • เป็นโรคเบาหวาน
    • เพิ่งใช้ยาปฏิชีวนะ
    • ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
    • ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
    • มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในร่างกายต่ำ
    • ติดเชื้อเอดส์ (โรคเอดส์)
    หรือโรคเชื้อราในช่องคลอด โดยลักษณะที่เกิดขึ้นจะมีตกขาวที่ผิดปกติไปจากปกติ คือ สีเป็นสีขาวข้นคล้ายคราบนม มีอาการคันในช่องคลอด บางครั้งคันที่บริเวณแคมเล็กและแคมใหญ่ (อวัยวะเพศภายนอก) ด้วย ปัสสาวะแสบขัดบางครั้ง ตกขาวไม่มีกลิ่นเหม็น สามารถพบได้บ่อย แต่การติดเชื้อดังกล่าวจะเกิดขึ้นบ่อยในคนที่
  2. เชื้อแบคทีเรีย ปริมาณตกขาวจะมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเน่า บางคนตกขาวมีกลิ่นหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะจะเป็นสีขาวขุ่น มักเกิดในสตรีที่มักสวนล้างช่องคลอดหรือกินยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
  3. เชื้อโปรโตซัวหรือสัตว์เซลล์เดียว (Protozoa) ตกขาวจะมีปริมาณมากขึ้น สีเขียว มีฟองเกิดขึ้นซึ่งลักษณะของฟองที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อชนิดนี้ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะแสบขัดมากเมื่อเทียบกับการติดเชื้อรา การติดเชื้อดังกล่าวจะสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นสามีหรือคู่นอนต้องรับการรักษาด้วยเสมอ

อนึ่ง นอกจากการติดเชื้อแล้ว ตกขาวผิดปกติยังอาจเกิดจากโรคมะเร็งได้ซึ่งพบได้น้อยกว่าจากการติดเชื้อ โรคมะเร็งที่มักก่ออาการตกขาวผิดปกติคือ โรคมะเร็งปากมดลูก

เมื่อพบตกขาวผิดปกติจะทำอย่างไร? รักษาอย่างไร?

ในกรณีที่พบว่าหรือสงสัยว่าตกขาวผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจรับการรักษาต่อไป ไม่ควรรักษาตนเอง เพราะมีสาเหตุได้หลากหลาย รวมทั้งมักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศ สัมพันธ์ที่แพทย์ต้องรักษาทั้งผู้ป่วยและคู่นอนควบคู่กันไป ซึ่งการซื้อยากินเองอาจเป็นสาเหตุให้กลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังจากเชื้อดื้อยา นอกจากนั้น สาเหตุตกขาวยังอาจเกิดจากโรคมะ เร็งปากมดลูกได้อีกด้วย การพบแพทย์ตั้งแต่แรกจะช่วยการวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะให้ผลการ รักษาที่ดีกว่าพบโรคในระยะรุนแรงที่มีอาการมากแล้ว

รักษาตกขาวหายแล้วจะเกิดซ้ำได้ไหม?

เมื่อตกขาวเกิดจากการติดเชื้อ ถึงแม้จะได้รับการรักษาหายแล้ว ถ้ากลับไปติดเชื้ออีกก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก ส่วนเมื่อเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ผลการรักษามักขึ้นกับระยะของโรคมะเร็ง

มีวิธีป้องกันตกขาวกลับเป็นซ้ำอย่างไร?

 

การป้องกันการกลับเป็นซ้ำของตกขาวจากการติดเชื้อนั้นมีวิธีการง่ายๆดังนี้

  1. ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือใส่ชุดอนามัยที่ไม่แห้งดี
  2. ไม่ทำการสวนล้างช่องคลอด ล้างทำความสะอาดเพียงเฉพาะภายนอกเท่านั้น
  3. หลังจากล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ในการเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่เช็ดจากหลังมาหน้าเพราะอาจมีการปนเปื้อนของอุจจาระมาที่ช่องคลอดได้
  4. หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
  5. เพื่อความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ควรให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
  6. เลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น

อนึ่ง การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูก

บรรณานุกรม

 

1. Centers for Disease Control and Prevention. Sexually Transmitted Diseases Treatment Guidelines 2006. MMWR 2006.
2. ธีระ ทองสง, จตุพล ศรีสมบูรณ์, ธีระพร วุฒยวนิช, ประภาพร สู่ประเสริฐ, สายพิณ พงษธา. Lower genital tract infections. นรีเวชวิทยา, 3rd edition. พี.บี.ฟอเรน บุ๊คส์ เซนเตอร์, p201-38.

ขอบคุณข้อมูลจาก....หาหมอดอทคอม





คลินิกสุขภาพ

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า
วิตามินช่วยเรื่องการนอน
เซ็กส์ครั้งแรกฟินหรือเจ็บ
ทำไมต้องวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง?
ใส่หน้ากากอนามัยอย่างไร จึงจะเรียกว่าป้องกันได้ถูกต้อง
3 สาเหตุ ที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้
เหตุผลที่ควรดูแลสายตาของลูกช่วงก่อนอายุ8-9ปีเป็นพิเศษ
รู้ทัน อาการนอนไม่หลับ อันตรายกว่าที่คิด
ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้มอร์ฟีน
ข้อเท็จจริง 8 ข้อเกี่ยวกับมะเร็งผิวหนังที่ไม่ค่อยมีใครรู้
ลูกร้องไม่หยุดทำไง?! 5 วิธีปราบโคลิคให้ทารกอย่างได้ผล
วิธีออกกำลังแล้วไม่เหนื่อย และดีต่อสุขภาพ
ความรู้เรื่องการทำหมันหญิง
การป้องกันการล้มในผู้สูงอายุ (Falls prevention in elderly)
7 คุณประโยชน์จากส้ม
เหตุผลที่จำเป็นทาครีมกันแดดทุกวัน
ความจริงเกี่ยวกับ ซุปไก่สกัด
ข้อดีและข้อเสียของเครื่องดื่มชูกำลัง
การป้องกันท้องผูกในผู้สูงอายุ (Prevention of elderly constipation)
ซิงค์ คืออะไร