ReadyPlanet.com
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 16 คน
dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
dot

ราคาสินค้า
หมวดสินค้า
ยี่ห้อสินค้า

  [Help]
dot
สินค้าทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
 ยาอม/ยาดม/ยาหม่อง
ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก
ว่านหางจระเข้ Aloe Vera เจลว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้รักษาสิว ครีมว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ทาหน้า สรรพคุณว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้พอกหน้า
ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก
ให้เช่าพื้นที่โฆษณาโดยร้านขายยาคลีนิกยาเว็ปไซต์อันดับหนึ่งจัดอันดับโดย google.co.th


การใช้ยาเลื่อนประจำเดือน

  ประจำเดือนนับเป็นกลไก ธรรมชาติที่เกิดขึ้น แต่หลายๆ ครั้งก็ทำความลำบากให้กับผู้หญิง โดยเฉพาะในการเดินทาง ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่างๆ จึงมีการใช้ Norethisteroneซึ่งเป็น ฮอร์โมน progesterone และมีการนำฮอร์โมนชนิดนี้มาใช้กำหนดวันมีประจำเดือน ซึ่งมีหลายบริษัทได้ผลิตยา ชนิดนี้ออกมาเช่น Primolut-n®,steron®,sunolut® เพื่อช่วยในการเลื่อนประจำเดือน ออกไป จากวันที่ประจำเดือนควรจะมา โดยกลไกการออกฤทธิ์ คือ norethisterone เป็นอนุพันธ์ของ progesterone ซึ่งทำหน้าที่ ควบคุมการหนาตัวของเยื่อบุมดลูกระหว่าง luteal phase ของรอบเดือน เพื่อรองรับไข่ที่ถูกผสม ระดับฮอร์โมน progesterone จะสูงใน luteal phase แต่ถ้าไข่ไม่ถูกผสม ระดับ progesterone จึงลดต่ำลง เยื่อบุมดลูกที่หนาตัวจะสลายไปเป็นประจำเดือน

 

          ดังนั้นการรับประทานยาเลื่อน ประจำเดือน จึงส่งผลให้ ระดับ progesterone สูง ในขณะที่รับประทานยาจึงทำให้ไม่มีรอบเดือน และทำให้มดลูกหนาตัวขึ้น เมื่อไข่ไม่ได้ รับการผสม และหยุดรับประทานยาเลื่อนประเดือนจำเดือนให้ progesterone ลดต่ำลง เป็นผลให้เยื่อบุมดลูกที่หนาตัวหลุดลอกสลายไป เป็นประจำเดือน เข้าสู่ภาวะของรอบเดือน แต่การหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกนี้ ไม่สามารถนับรอบเดือนตามปรกติได้แน่นอน จึงไม่ควรใช้ วิธีนับวันสำหรับเดือนต่อไป

 

วิธีรับประทานยาเลื่อนประจำเดือน

 

          วิธีการ รับประทานยาเลื่อนประจำเดือนที่ถูกต้องคือ รับประทาน 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง ตามน้ำหนักตัว

               - หากน้ำหนักตัวต่ำกว่า 60 กิโลกรัม จะรับประทาน 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง
               - หากน้ำหนักตัวมากกว่า 60 กิโลกรัม จะรับประทาน 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง

 

           ในขณะที่ใช้ยาเลื่อนประจำเดือนชนิด ฮอร์โมน norethisterone เลื่อนประจำเดือน โดยเริ่มรับประทานอย่างน้อย 3 วัน ก่อนกำหนดวันมีประจำเดือน ไม่ควรรับประทานนานเกิน 10-14 วัน เนื่องจากจะทำให้รอบเดือนมาผิดปกติ, เลือดออกกระปิดกระปรอย,เจ็บคัดเต้านม,ซึมเศร้า, ปวดศีรษะได้ เป็นต้น เมื่อหยุดยา 2-3 ประจำเดือนจะมาตามปกติ ในกรณีที่ต้องการเลื่อนประจำเดือนมากกว่า 14 วัน หรือนานกว่านั้น ควรใช้ยาคุมกำเนิด ที่มีฮอร์โมน 2 ชนิด (combined pills) แบบ 21 เม็ดจะเหมาะสมกว่า โดยฮอร์โมนสูตรผสม ซึ่งมีทั้ง Estrogen และ progesterone จะสามารถเลื่อนประจำเดือนโดยมีหลักการคือ ฮอร์โมนทั้ง 2 จะไปรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกายให้คล้ายกับ ระดับฮอร์โมนในร่างกายก่อนมีประจำเดือน จนกระทั่งเมื่อหยุดทานยา ระดับฮอร์โมนจะลดต่ำลงทำให้เข้าสู่ภาวะรอบเดือน โดยวิธีการใช้ยาคุมสูตรผสมในการเลื่อนประจำเดือน คือ ให้ทานก่อนประจำเดือนมา 7 วัน โดยทานวันละ   1 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน หรือถ้าใกล้ถึงวันที่ประจำเดือนมา ให้ทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด โดยทานในช่วงเช้า และเย็น หลังอาหาร

 

 

 

 

         สำหรับในผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน รวมอยู่แล้วต้องการเลื่อนประจำเดือน จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี 

                 - กรณีที่ 1 ทานยาคุมกำเนิดแบบแผงละ 21 เม็ด เมื่อทานยาคุมจนหมดแผง สามารถทานแผงต่อไปได้เลยไม่ต้องหยุดยาจะทำให้ สามารถเลื่อนประจำเดือนได้

                 - กรณีที่ 2 ทานยาคุมกำเนิดแบบแผงละ 28 เม็ด เมื่อทานยาคุมไป 21 เม็ดแล้ว จะเหลือยาอยู่ 7 เม็ด ให้เริ่มทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ ได้เลยโดยไม่ต้องรับประทาน 7 เม็ดที่เหลือในแผงเดิม เนื่องจากยา 7 เม็ดที่เหลือไม่มีส่วนประกอบของฮอร์โมน และในผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิดอยู่แล้ว และใช้ยังทานยาคุมกำเนิดเพื่อเลื่อนประจำเดือนสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ และเมื่อหยุดทานยาปะจำเดือนจะมาตามปกติ ในอีกประมาณ 2-3 วัน

 

การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนในกรณีต่างๆ

 
                 - การใช้ยาเลื่อนประจำเดือน ในหญิงตั้งครรภ์ มีผลทารกในครรภ์มีโคโมโซมที่ผิดปกติเป็นผลให้ทารกในครรภ์พิการได้ หรือ จะทำให้เกิดการแท้งได้

                 - การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนในหญิงให้นมบุตร เมื่อใช้นานเกิดไป จะทำให้เกิดอาการเจ็บคัดเต้านม,เต้านมโต

                 - การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนเพื่อป้องกันการต้องครรภ์ โดย norethisterone จะออกฤทธิ์ ทำให้เมือกบริเวณช่องคลอดเหนียวข้น ทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ อสุจิเคลื่อนที่ไปผสมกับไข่ได้ยาก และทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะสมแก่การฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การทานยาเลื่อนประจำเดือน เป็นการทานในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่ดีเท่าการใช้ยาคุมกำเนิดโดยตรง ดังนั้น หากต้องการเลื่อนประจำเดือนและหวังผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วย ควรจะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมแทน นอกจากนี้บางครั้งมี ผู้นำยาเลื่อนประจำเดือนมาใช้ในการเลื่อนประจำเดือนออกไป ซึ่งจะให้ผลไม่แน่นอนและยังอาจมีผลเสีย เนื่องจากทำให้รอบประเดือนผิดปกติ และเกิดเลือดออกกระปริดกระปรอย และยังเกิดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่ม




รอบรู้เรื่องยากับคลีนิกยา

เหตุผลที่ควรนำยาเก่าไป รพ. ด้วยเสมอ
ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ!!
ยาฉีดคุมกำเนิด (Injectable contraceptive)
แอลคาร์นิทีน (L-carnitine) จำเป็นไหมกับการลดความอ้วน
ยาหลอก (Placebo Effect)
ชะเอม กับการรักษาและป้องกันโรค
กลุ่มยาแก้ปวดและยาพาราเซตามอล (Analgesics and Paracetamol)
Drug Identification พิสูจน์เอกลักษณ์เม็ดยา
ยายับยั้งการหลั่งน้ำย่อยประเภท H2 blocker รุ่นใหม่