ReadyPlanet.com
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 26 คน
dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
dot

ราคาสินค้า
หมวดสินค้า
ยี่ห้อสินค้า

  [Help]
dot
สินค้าทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
 ยาอม/ยาดม/ยาหม่อง
ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก
ว่านหางจระเข้ Aloe Vera เจลว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้รักษาสิว ครีมว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ทาหน้า สรรพคุณว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้พอกหน้า
ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก
ให้เช่าพื้นที่โฆษณาโดยร้านขายยาคลีนิกยาเว็ปไซต์อันดับหนึ่งจัดอันดับโดย google.co.th


โรคสายตาของคนทำงานยุคใหม่ “ Computer Vision Syndrome (CVS)

 

 


 

โรคสายตาของคนทำงานยุคใหม่ “ Computer Vision Syndrome (CVS)

 

โรคสายตาของคนทำงานยุคใหม่
“Computer Vision Syndrome (CVS)”
 
เราจะทำอย่างไร เมื่อชีวิตประจำวันที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ส่งผลให้สุขภาพดวงตาเสื่อมโทรม เป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์จะทำให้เกิดปัญหาอย่างเช่น อาการปวดรอบดวงตา ปวดศีรษะ ตาแห้ง ฯลฯ ซึ่งหากปล่อยไว้ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลงแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาวด้วย ดังนั้นเราจะทำอย่างไร ในการดูแลรักษาดวงตาของเราจากเทคโนโลยีปัจจุบัน
 
รู้จักกับ Computer Vision Syndrome (CVS) เป็นกลุ่มของอาการทางตาและการมองเห็น ที่มีผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งความรุนแรงของอาการจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการใช้งานอันที่จริงแล้ว เวลาทำงานกับคอมพิวเตอร์นั้น ดวงตาของคนเราจะถูกใช้งานแตกต่างจากการอ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษ ไม่ว่าจะเป็นระยะการมองหรือมุมที่ต้องก้มขณะที่อ่าน และบ่อยครั้งที่พบว่าตัวอักษรบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นมีความชัดเจนไม่เพียงพอ รวมทั้งความเข้มหรือความสว่างของหน้าจอซึ่งถูกปรับตั้งไว้ไม่เหมาะสมในขณะใช้งาน ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าปกติในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์และส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าจากการใช้งานดังกล่าวเป็นระยะเวลานานได้ ซึ่งพบว่าผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง จะมีความเสี่ยงที่จะเป็น Computer Vision Syndrome ได้สูง
 
 
สาเหตุของอาการเหล่านี้ เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น

 

ภาวะแสงในขณะทำงานไม่เพียงพอ 
แสงสะท้อนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ 
ตำแหน่งของหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือการจัดท่านั่งที่ไม่เหมาะสม 
ภาวะสายตาที่ไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะสายตายาวหรือสายตาเอียง
 
อาการของ Computer Vision Syndrome จะประกอบด้วย 
อาการปวดบริเวณรอบดวงตา 
ปวดศีรษะ 
ตาพร่ามัว
ตาฝืดแห้ง 
อาจมีอาการปวดคอและไหล่ร่วมด้วยซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นชั่วคราวและหายไปเมื่อได้พักจากการใช้คอมพิวเตอร์
 
การตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัย Computer Vision Syndrome สามารถทำได้จาก
1. การซักประวัติคนไข้ จะพบว่าคนไข้มักทำงานกับจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันโดยไม่มีการหยุดพัก ร่วมกับมีอาการข้างต้นหลังจากที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และอาการมักจะหายไปเมื่อหยุดพัก
2. การตรวจร่างกาย จะพบว่าตาอาจจะแดงเล็กน้อย ตาแห้ง หรืออาจพบแผลบนกระจกตาลักษณะแบบจุด ความชัดเจนของการมองเห็นมักจะลดลง รวมทั้งอาจตรวจพบว่ามีสายตาที่ผิดปกติร่วมด้วย
 
การป้องกัน Computer Vision Syndrome สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกัน Computer Vision Syndrome คือ การจัดลักษณะท่าทางและสิ่งแวดล้อมในการใช้คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดย-หน้าจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา 15 - 20 องศา และบริเวณกลางหน้าจอควรอยู่ห่างจากใบหน้า 50 - 70 ซม. - จัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในมุมที่ไม่มีแสง จากภายนอกมาตกกระทบ หรือเลือกใช้หน้าจอชนิดที่ลดแสงสะท้อน (Anti- glare screens or filters) และปรับตั้งความเข้ม (Contrast) ของหน้าจอที่ประมาณ 75% รวมทั้งลดแสงสว่างบนโต๊ะลงเล็กน้อย - ควรมีการพักสายตาระหว่างการใช้งานทุกๆ 20 นาที โดยการมองออกไปที่ระยะไกลอย่างน้อย 20 ฟุต (หรือ 6 เมตร) เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที และควรหยุดใช้งาน 15 นาที หลังจากที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง
 
สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี การเลือกใช้แว่นตาและเลนส์ที่ได้รับการเคลือบสารเคมี (Multicoat) จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้ - หมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตาหรือสายตา และควรรับการตรวจสุขภาพตาจากจักษุแพทย์เป็นประจำ
 
จะเห็นว่าในยุคปัจจุบัน Computer Vision Syndrome เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรา โดยที่บางคนอาจจะเป็นโรคนี้โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน และถ้าปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการใส่ใจ และแก้ไขที่สาเหตุ อาการที่กล่าวมานั้นก็จะกลับเป็นซ้ำ และอาจมีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ในกรณีที่ Computer Vision Syndrome ถูกละเลยไม่ได้รับการรักษา อาการเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นปัญหาที่เรื้อรังแก้ไขได้ยาก และในที่สุดอาการเหล่านี้จะติดตัวคนไข้ไปตลอด นอกจากนี้ภาวะตาแห้งที่รุนแรงยังอาจทำให้กระจกตาเป็นแผลอักเสบ หรือติดเชื้อซึ่งมีผลต่อการมองเห็นหรือแม้กระทั่งตาบอด
หรือสูญเสียลูกตาได้ 
 
ที่มาโดย                    
ศูนย์จักษุวิทยาเฉพาะทาง โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล


 




รอบรู้เรื่องโรคกับคลีนิกยา

โรคอ้วน อันตรายกว่าที่คุณคิด
อาการชักแบบมีสติ (Simple partial seizure หรือ Simple focal seisure)
ผู้ป่วยโรคเรื้อรังกับการใช้ยา
กาเฟอีน คาเฟอีน (Caffeine)
การบาดเจ็บซ้ำซากจากงานซ้ำๆ (Repetitive strain injury)
ขากระตุกขณะหลับ (Periodic limb movement disorder)
โรคซึมเศร้า...ภัยร้ายใกล้ตัว
ไข้จับสั่น (Malaria)
โลหิตจางและอาหารเสริมเพิ่มธาตุเหล็ก
โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) และโรคกระดูกบาง (Osteopenia) และอาหารเสริมแคลเซียม
โรคกรดไหลย้อนและการป้องกันดูแล
ไข้เลือดออกและวิธีป้องกันก่อน
โรคเมเนียส์ หรือ น้ำในหูไม่เท่ากัน article
โรคหลอดเลือดสมอง stroke
ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (Intranasal Steroids) กับการรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้