เปิดสถิติ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ที่เห็นแล้วต้องอึ้ง ! ของค้าปลีกไซส์ S แต่ไม่เล็กเหมือนขนาด

นับตั้งแต่วันแรกที่ “ซีพี ออลล์” บริษัทในกลุ่มซีพี นำ “เซเว่น อีเลฟเว่น” (7-Eleven) โดยได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวจาก 7-Eleven, Inc. สหรัฐอเมริกา มาเปิดสาขาแรกในเมืองไทยที่ซอยพัฒน์พงษ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ค่อยๆ แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของคนไทยโดยไม่รู้ตัว และเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายที่ไม่ว่าจะซื้ออาหาร ขนม เครื่องดื่ม หรือแม้แต่จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ซื้อประกัน จองตั๋วคอนเสิร์ต สินค้าและบริการอื่นๆ อีกมากมาย หันมาใช้บริการผ่านสาขา

นั่นแสดงให้เห็นว่า “เซเว่น อีเลฟเว่น” มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของคนไทยไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นช่องทางจำหน่ายสำคัญของบรรดาแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ ที่หลายแบรนด์ยอมจ่ายให้กับเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อให้ได้สินค้าของตนเองไปวางอยู่บนชั้นวาง

มาดูกันว่า ทำไม…ค้าปลีกไซส์ S อย่างเซเว่น อีเลฟเว่น จัดอยู่ในเซกเมนต์ Convenience Store ถือเป็นค้าปลีกที่มีขนาดเล็กสุดในบรรดาธุรกิจ Modern Trade ถึงสามารถผลักดันตัวเองจากช่วง 10 ปีแรกของการบุกเบิกธุรกิจ ที่มีสาขาเพียง 1,800 กว่าสาขา จนวันนี้กลายเป็นหนึ่งใน Network ค้าปลีกที่ทรงพลังไม่แพ้ค้าปลีกไซส์ขนาดใหญ่ ซึ่งข้อมูลตัวเลขต่อไปนี้ เป็นข้อมูลอัพเดทล่าสุดของไตรมาส 2/2559

– จำนวนสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น 9,252 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4,129 สาขา (45%) ขณะที่ต่างจังหวัด 5,123 สาขา (55%)

– ในจำนวนสาขาทั้งหมดนี้ เป็นร้านสาขาของซีพี ออลล์ 4,147 สาขา (45%), ร้านค้าแฟรนไชส์ 4,434 สาขา (48%), ผู้ประกอบการรับสิทธิช่วงในอาณาเขต (Sub Area License Stores คือ ร้านที่บริษัททำสัญญาอนุญาตให้สิทธิช่วงแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นในการเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเฉพาะในอาณาเขตที่กำหนด ปัจจุบันมี 4 ราย ได้แก่ ภูเก็ต ยะลา เชียงใหม่ และอุบลราชธานี) 671 สาขา (7%)

– ในจำนวนสาขาทั้งหมดนี้ ยังแบ่งเป็นรูปแบบ Stand Alone 7,984 สาขา (86%) และ สาขาที่ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. 1,268 (14%)

– โดยเฉลี่ยเซเว่น อีเลฟเว่น ประเทศไทย เปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 600 – 700 สาขาต่อปี

– สัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายในร้านสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น แบ่งเป็นกลุ่ม Foods 71.2% และ กลุ่ม Non Foods 28.8% โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มสามารถทำ Margin สูงกว่ากลุ่มสินค้าอุปโภค

– ยอดขายโดยเฉลี่ยต่อสาขาต่อวัน อยู่ที่ 81,212 บาท

– จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 1,259 คนต่อวันต่อสาขา เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของ 2559 อยู่ที่ 1,217 คนต่อวันต่อสาขา หรือคิดเป็นยอดรวมลูกค้าใช้บริการเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่า 11 ล้านคนต่อวัน

– ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ มียอดการใช้จ่าย 64 บาทต่อบิล

– เซเว่น อีเลฟเว่น ประเทศไทย มีสาขามากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเซเว่น อีเลฟเว่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มีกว่า 18,000 สาขา และอันดับ 3 คือ สหรัฐอเมริกา ที่มีกว่า 8,300 สาขา

– ซีพี ออลล์ กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการขยายสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น ให้ได้ 10,000 สาขา ภายในปี 2561

จากข้อมูลตัวเลข ทั้งจำนวนสาขาโดยรวม อัตราการเปิดสาขาใหม่ต่อปี รวมถึงจำนวนลูกค้าใช้บริการต่อวัน และยอดการใช้จ่ายต่อบิล สะท้อนให้เห็นว่าทุกวันนี้ “เซเว่น อีเลฟเว่น” หยั่งรากลึกในสังคมไทยทุกกลุ่ม ทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่ขณะนี้ขยายเข้าไปยังระดับอำเภอ ตำบล

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ “เซเว่น อีเลฟเว่น” มีอำนาจการต่อรองสูง และไม่ได้เป็นเพียงแค่ “ช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการ” เท่านั้น หากแต่เป็น Network ที่ทรงพลังมหาศาลในการเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้ทั่วประเทศและรวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้บรรดาแบรนด์สินค้าและบริการต่างยอมจ่ายเงินให้กับเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อให้สินค้าของตนเองเข้าไปวางอยู่บนชั้นวาง เพราะสาขาทั่วประเทศเปรียบเป็นช่องทางแบรนด์ดิ้งสินค้า สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค ตลอดจนเป็นสื่อโฆษณา ณ จุดขาย และเป็นช่องทางจัดรายการส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์หรือสินค้า

ขณะเดียวกันซีพี ออลล์มี “เคาน์เตอร์เซอร์วิส” เป็นบริษัทลูก ตั้งในสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อรับชำระค่าสาธารณูปโภค รวมทั้งร่วมมือกับพันธมิตร เป็นช่องทางให้บริการด้านการเงิน ประกัน จุดรับสินค้าออนไลน์ ลงทะเบียนเรียนมหาวิทยาลัย ฯลฯ ประกอบกับการเติมเต็มด้านร้านกาแฟ เบเกอรี่ หนังสือ และร้านขายยาสำหรับในบางสาขาที่โลเกชั่นมีศักยภาพในการขยายได้เต็มรูปแบบ

ที่สำคัญ “เซเว่น อีเลฟเว่น” เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของการต่อภาพ Ecosystem ของกลุ่มซีพีในธุรกิจอาหาร ซึ่งธุรกิจอาหารถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของกลุ่มซีพี โดยเป็นช่องทางสำคัญที่ใช้เก็บข้อมูลพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าของผู้บริโภค แล้วนำมาศึกษาและวิเคราะห์เทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อย้อนกลับไปสู่กระบวนการ “ต้นน้ำ” นั่นคือ การผลิต Raw Material ต่างๆ ตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ เข้าสู่กระบวนการเป็นเนื้อสัตว์ รวมทั้งผักและผลไม้ จากนั้นส่งต่อไปสู่ “กลางน้ำ” คือ การเอาวัตถุดิบไปแปรรูป กลายเป็นสินค้าอาหารปรุงสุก อาหารกึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน ทั้งในรูปแบบแช่เย็นและแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในเครือซีพี จำหน่ายผ่านช่องทางเซเว่น อีเลฟเว่น และร้านค้าปลีกอื่นๆ ทั้งในเครือและนอกเครือ

Photo Credit : CP ALL

บทความจาก : brandbuffet