แหมทำไปได้! อธิการฯ ลาดกระบังเนียน ปลอมตัวเป็นนักศึกษา รับวันปฐมนิเทศ (ฉบับเต็ม)
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ก.ค. 2558 13:40
ศ.ดร.สุชัชวีร์ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังทำเก๋ ปลอมตัวเป็นนักศึกษา สร้างความฮือฮาในวันปฐมนิเทศ โชว์วิสัยทัศน์ในงานเสวนา แนะภาครัฐตั้งวิสัยทัศน์ประเทศไทยก่อนการปฏิรูป พร้อมชูประเทศพัฒนาแล้วขาดวิทยาศาสตร์ไม่ได้...
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ ได้ปลอมตัวเป็น "พี่เนียน"
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวในงานเสวนา “เปลี่ยนโลก เปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนอย่างไรให้พัฒนาอย่างยั่งยืน” ในงานวิศวะ’ 58 ว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในห้วงแห่งการพัฒนา การที่ชาติจะก้าวหน้าและเข้าใกล้ความเป็นสากลได้นั้น ความรู้ความสามารถของประชากร ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคนไทยมีศักยภาพทั้งในแง่ของความคิดสร้างสรรค์และสติปัญญา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติใด แต่สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ประเทศไทยยังคงรั้งท้าย ไม่สามารถก้าวข้ามกับดักประเทศกำลังพัฒนา เป็นเพราะว่าคนไทยขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนาชาติ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา อาจารย์ ผู้ปกครอง หรือในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐที่ยังขาดความมุ่งมั่นในการพึ่งพาตนเอง ไม่มีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนให้พุ่งชน ประเทศไทยก็คงจะก้าวไม่พ้นกับดักไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้เสียที ทั้งนี้ หากลองวิเคราะห์กรณีศึกษาอย่างประเทศมาเลเซียที่ทุกวันนี้เจริญก้าวไกลในทุกๆ ด้าน จะพบว่ามีคนในชาติมีแรงผลักดันจากการตั้งเป้าสู่การเป็นประเทศโลกที่ 1 ภายในปี 2563 หรืออย่างประเทศเกาหลีใต้ที่พัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้ด้วยคำพูดคำเดียวว่า “เราจะแพ้ญี่ปุ่นไม่ได้” ดังนั้น เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ภาครัฐจึงควรมีการกำหนดวิสัยทัศน์ของชาติที่ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางให้คนไทยนำชาติก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์
ทั้งนี้ การจะผันสถานะประเทศไทยไปเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้ ไม่เพียงต้องใช้ความมุ่งมั่นของคนในชาติเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีความก้าวล้ำทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หากบุคลากรของชาติมีความรู้ความเชี่ยวชาญ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและนำมาใช้ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปได้และก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมในองค์รวมต่อไป ทั้งในแง่ของการพัฒนาสาธารณูปโภค ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งมีเพียงถนนสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสายเดียวเท่านั้นที่จะนำทางประเทศไทยให้เปลี่ยนจากประเทศผู้ซื้อไปเป็นประเทศผู้ผลิตได้ แต่ในทุกวันนี้ เด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มเลือกเรียนสายบริหารธุรกิจ สื่อสารมวลชน และกฎหมายกันมากขึ้น ในขณะที่สถานการณ์ของการผลิตบัณฑิตด้านวิทยาศาสตร์ถือได้ว่าขาดแคลน หากเราไม่สามารถลบข้อจำกัดนี้ได้ ประเทศไทยคงต้องดำเนินแผนตั้งรับอยู่ในโลกแห่งการแข่งขันต่อไป
สจล.จึงได้ตั้งวิสัยทัศน์ในการก้าวไปเป็น MIT แห่งเอเชีย และเป็นสุดยอดสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ใน 10 ของภูมิภาคอาเซียน ภายในปี 2563 ที่มุ่งสร้างนวัตกรคุณภาพมาเปลี่ยนประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “The Master of Innovation : เจ้าแห่งนวัตกรรม” โดยพร้อมเป็นฟันเฟืองสู่การพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานที่ผ่านมา (27 ก.ค. 58) ในงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2558 ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ ได้ปลอมตัวเป็น "พี่เนียน" นั่งปะปนอยู่ภายในเก้าอี้ที่นักศึกษานั่งอยู่ โดยภายในงานได้มีการเปิดให้นักศึกษาทั้งหมด ชมภาพยนตร์สั้น เรื่อง รัก ณ ลาดกระบัง หลังจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการชมภาพยนตร์ ได้มีการเชิญอธิการบดี ขึ้นเวที ศ.ดร.สุชัชวีร์ ที่อยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะวิ่งมาที่เวที สร้างความฮือฮาให้กับนักศึกษาเป็นอย่างมาก