111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
การป้องกันการล้มในผู้สูงอายุ (Falls prevention in elderly)
บทนำ
การล้ม/หกล้ม (Fall) ในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสาธารณสุขในระดับโลกและระดับประเทศ เนื่องจากสังคมมีประชากรสูงวัย/สูงอายุเพิ่มขึ้นจนเป็นสังคมผู้สูงอายุไปแล้ว ภาวะสูงวัยที่มีการเสื่อมถอยของร่างกายไปตามสภาพการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นจึงทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆ องค์การอนามัยโลกระบุว่าผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไปเสี่ยงต่อการหกล้ม 28 - 35% และยิ่งมีอายุมากขึ้นเป็น 70 ปีจะเสี่ยงต่อการหกล้มเพิ่มขึ้นเป็น 32 -42% เมื่อผู้สูงอายุหกล้มทำให้เกิดการบาดเจ็บและยังเกิดผลกระทบตามมาทั้งกับผู้สูงอายุเอง และกับครอบครัวที่ต้องรับภาระในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ ต้องเสียเวลา เสียทรัพย์สิน และความเสียใจจากอาจเกิดการเสียชีวิตของผู้สูงอายุจากการหกล้ม จากสถิติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการหกล้มเป็นอันดับ 2 รองจากอุบัติเหตุและมีแนวโน้มสูง ขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การหกล้มในผู้สูงอายุในแต่ละปีพบว่า 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุมักมีประสบการณ์การหกล้ม และครึ่งหนึ่งมีการหกล้มมากกว่า 1 ครั้งและ 20% ของการบาดเจ็บจากการหกล้มจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
การหกล้มของผู้สูงอายุพบได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน การหกล้มในผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่สามารถระมัดระวังและป้องกันได้หากเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจในปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการหกล้ม ในบทความนี้จึงขอนำเสนอแนวทางการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุที่สามารถนำไปใช้กับผู้สูงอายุ ผู้ดูแลคนในครอบครัว รวมทั้งทุกคนที่กำลังจะเป็นผู้สูงอายุ เพื่อการดูแลที่ถูกต้องให้ห่างไกลจากการหกล้มในผู้สูงอายุได้
อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงการหกล้มในผู้สูงอายุ?
การหกล้ม/การล้มเป็นภาวะที่เกิดจากสูญเสียการทรงตัว เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ลำตัว แขน ขา หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายกระแทกกับพื้น ซึ่งสาเหตุของการหกล้มในผู้สูงอายุมีปัจจัยสำคัญๆอยู่ 2 ประการดังนี้
ก. ปัจจัยภายในหรือปัจจัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย: ผู้สูงอายุทั้งเพศหญิงและเพศชายมีโอกาสหกล้มได้ จากการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุหญิงมีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มสูงกว่าผู้สูงอายุชายเนื่องจากผู้สูงอายุหญิงมีฐานในการเดินแคบกว่าผู้สูงอายุชาย
อัตราการล้มของผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2 เท่าเปรียบเทียบกับการล้มของผู้สูงอายุทั่วไปในกรณีดังนี้
มีอายุ 75 ปีขึ้นไป
มีโรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆเช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
มีปัญหาทางกระดูกและ/หรือทางกล้ามเนื้อ
มีปัญหาทางสายตา ปัญหาในการเดินและในการทรงตัว มีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่าย
ใช้ยาคลายเครียดหรือยานอนหลับ
ใช้ยาต่างๆมากกว่า 4 ชนิด
เคยมีประวัติการหกล้มมาก่อนมีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มซ้ำเพิ่มเป็น 2 เท่าเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่มีประวัติเคยล้มมาก่อน
ผู้ที่พึ่งพาผู้อื่นในชีวิตประจำวันมีโอกาสหกล้มเพิ่มขึ้นมากกว่าผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้
ผู้สูงอายุที่มีภาวะเครียด วิตกกังวล กลัวหกล้ม มีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มเพิ่มขึ้น
ข. ปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยจากสภาพแวดล้อม: เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มในผู้สูงอายุทั้งที่เป็นปัจจัยจากสภาพแวดล้อมในบ้านและสภาพนอกบ้าน
ปัจจัยสภาพแวดล้อมในบ้าน: เช่น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอโดยเฉพาะบริเวณบันได ห้อง นอน, ลักษณะพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเพราะจะลื่นกว่าพื้นไม้, พื้นลื่นในห้องน้ำ, ทางเดินต่างระดับ, ขอบธรณีประตู, การจัดวางสิ่งของภายในบ้านไม่เป็นระเบียบ, ผู้สูงอายุที่ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินเช่น ไม้เท้า วอกเกอร์ช่วยเดิน (Walker), การขึ้นลงบันไดในบ้าน, ใช้เศษผ้าหรือเสื้อผ้าเก่าเป็นที่เช็ดเท้า, สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้สูงอายุสะดุดสิ่งกีดขวางลื่นล้มจากทางต่างระดับ ตกบันได และการเสียหลักการทรงตัวจนหกล้มในที่สุด ทั้งนี้บริเวณในบ้านที่ผู้สูงอายุมักหกล้มบ่อยที่สุดคือในห้องน้ำและที่ทางเดินต่างๆ
ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมนอกบ้าน: เช่น ทางเดินรอบบ้านมีสิ่งกีดขวางและ/หรือขรุขระ, ทางเดินรถจักรยาน/จักรยานยนต์มีลักษณะขรุขระ
ดังนั้นผู้สูงอายุและผู้ดูแลจึงควรต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันผู้สูงอายุหกล้ม
ผลกระทบจากการหกล้มในผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?
http://haamor.com/th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8/
|