Caltrate Plus แคลเทรต พลัส 60 เม็ด
ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซี่ยม
Caltrate Plus 600 mg. (Vitamin D & Minerals) แคลเทรต พลัส แคลเซียมผสมวิตามินดี และแร่ธาตุ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูก เสริมสร้างแคลเซียม วิตามินดี และแร่ธาตุต่างๆ
Caltrate Plus 600 mg. (Vitamin D & Minerals) แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างมากต่อร่างกายและขาดไม่ได้ตั้งแต่วัยทารกจนกระทั่งถึงวัยกลางคนและวัยชรา ประโยชน์ของแคลเซียมมีดังนี้
- ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืน
- จำเป็นต่อต่อการเจริญเติบโตทั้งกระดูกและฟัน
- ช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานปกติ
- ช่วยในการสื่อสารของระบบประสาท
- ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
- ช่วยให้การเต้นของหัวใจปกติ
- มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการแข็งตัวของเลือด
- ช่วยควบคุมความดันให้ปกติ
- จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันและการกระบวนทำลายเชื้อก่อโรคต่างๆ
- จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์
ปัญหาสุขภาพเมื่อขาดแคลเซียม
โดยปกติคนเราจะสูญเสียแคลเซียมประมาณ 600 มิลลิกรัม/วัน ถ้าร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอย่อมจะเกิดปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันไป คือ
วัยเด็กและวัยรุ่น - ที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต หากได้รับแคลเซียมน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานจะทำให้มวลกระดูก (Bone Mass) และความหนาแน่นของกระดูก (Bone Density) บกพร่อง แต่ไม่มีอาการปรากฏชัดเจน เพราะแคลเซียมในเลือดยังคงปกติ และจะไม่ได้รับประโยชน์จากแคลเซียมในแง่ของการพัฒนาความสูงอย่างเต็มที่
หญิงตั้งครรภ์ - ถ้าได้รับแคลเซียมไม่พอ ร่างกายจะดึงแคลเซียมจากกระดูกและฟันของแม่ออกมาทดแทน ทำให้กระดูกและฟันผุง่าย กล้ามเนื้อเกร็ง ปวด เป็นตะคริวได้ง่าย ยิ่งถ้าตั้งครรภ์หลายครั้งหรือมีลูกหลายคนโดยไม่ได้เสริมแคลเซียมให้เพียงพอระหว่างตั้งครรภ์ จะมีอาการเสียวฟันและฟันผุชัดเจนยิ่งขึ้น
ผู้สูงอายุ - เป็นช่วงที่ร่างกายขาดความสามารถในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก โดยเฉพาะสตรีที่หมดประจำเดือนจะขาดฮอร์โมนเพศที่ช่วยกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก และนอกจากจะดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้น้อยลงแล้ว ร่างกายยังขับแคลเซียมออกจากร่างกายเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้เนื้อกระดูกบางลง และเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็นสาเหตุให้กระดูกหักได้ง่าย โดยเฉพาะที่สะโพก (Hips) กระดูกสันหลัง (Spine) และข้อมือ (Wrists) ในวัยนี้จึงควรกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง หรือเสริมด้วยผลิตภัณฑ์แคลเซียม
ปริมาณแคลเซียมที่ต้องการ/วัน
โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยได้รับแคลเซียมจากอาหารประมาณ 350 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งยังไม่เพียงพอ จึงควรเสริมให้มากขึ้น แต่ไม่ควรเกินครั้งละ 500 มิลลิกรัม และไม่ควรเกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน
- วัยเด็ก1-3 ปี 500 มก.
- วัยเด็ก 4-8 ปี 800 มก.
- วัยรุ่น9-18 ปี 1000 มก.
- ผู้ใหญ่ 19-50 800 มก.
- ผู้ใหญ่ 50 ปี ขึ้นไป 1000 มก.
- สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร 800 มก.
วิธีรับประทาน
- วันละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร