เรื่องของการกินยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิว เพื่อหวังให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ยินมานาน จนถึงปัจจุบันยังมีผู้นิยมรับประทานอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ตามคำบอกเล่าจากคนใกล้ชิด หรือแม้แต่การไปเชื่อข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมากเกินไป
ต่อเรื่องนี้ ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ระบุว่า ยาคุมกำเนิดจะมีชนิดรวมสารเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ชนิดที่มีเพียงโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว ยาเม็ดคุมฯ ฉุกเฉินใช้ระยะสั้นมีฮอร์โมนสูง ห้ามใช้บ่อย และยาเม็ดคุมฯ ชนิดเลียนแบบธรรมชาติ ซึ่งตัวนี้เลิกใช้ไปแล้วเพราะประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่แน่นอน และยาเม็ดคุมฯ ที่ให้ในการเลื่อนประจำเดือน
ทั้งหมดทำมาโดยมีเป้าประสงค์เพื่อคุมกำเนิด จริงอยู่ที่มีผลข้างเคียงด้านดีทำให้ลดสิว ผิวพรรณเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะตัวที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเยอะ ซึ่งทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งนั้น แต่ในขณะเดียวกันอาจจะทำให้เกิดฝ้า รวมถึงผลข้างเคียงด้านลบอีกมาก
ซึ่งผลข้างเคียงทางลบที่พบบ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ น้ำหนักตัวเพิ่ม ปวดศีรษะแบบไมเกรน ยาคุมฯ บางชนิดทำให้สิวเห่อขึ้นได้ บางชนิดเป็นฝ้า บางคนประจำเดือนมากะปริดกะปรอยโดยเฉพาะผู้ที่รับประทานยาไม่ครบ บางคนมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เกิดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล เป็นผลมาจากโปรเจสโตเจนสูง ผลข้างเคียงที่รุนแรงแต่พบไม่บ่อย คือ เส้นเลือดอุดตัน
ที่สำคัญการใช้เอสโตรเจนเดี่ยว ๆ มีผลทำให้ผนังมดลูกหนาตัวมากไป เสี่ยงเป็นมะเร็งทางระบบสืบพันธุ์ และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้กินยาคุมกำเนิด
ผศ.พญ.สุวิรากร ระบุอีกว่า ส่วนปัญหาสิวนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ตัวที่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดมารักษาได้ มีแค่สิวฮอร์โมน ซึ่งมีฮอร์โมนแอนโดรเจนไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานเยอะ และเกิดการอุดตันที่ผิวหนัง และมีแบคทีเรียพีแอคเน่ (P.acne) เข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดภาวะสิวเห่อทุก ๆ รอบเดือน ดังนั้นคนที่มีลักษณะคล้ายเพศชายเยอะ มีหนวด ขนยาว เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น การรักษาสิวกลุ่มที่เกิดจากฮอร์โมนนั้นแพทย์ก็ไม่ให้ใช้ยาคุมกำเนิดรักษาเป็นตัวแรก แต่จะพิจารณาให้ใช้ก็ต่อเมื่อรักษาด้วยยาทา ยาปฏิชีวนะแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือคนที่ต้องการจะคุมกำเนิดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การกินยาคุมฯ เพื่อหวังผลในการรักษาสิวนั้นสิวไม่ได้ยุบลงทันทีในเดือนแรก แต่จะเริ่มเห็นผลเมื่อกินต่อเนื่องประมาณ 2-3 เดือน โดยสิวจะเริ่มลดลง ผิวดีขึ้น เพราะต่อมไขมันจะค่อย ๆ ทำงานน้อยลง แต่ไม่ได้ทำให้หน้าแห้งเหมือนยารักษาสิวโดยเฉพาะ
เช่นนั้นแล้วเราจะเหมารวมว่าสามารถรับประทานยาคุมกำเนิดทุกตัว เพื่อรักษาสิวทุกชนิด หรือเพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล นั้นไม่ได้ ถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะใช่ว่าทุกคนจะสามารถรับประทานได้หมด โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ ไมเกรนรุนแรง โรคตับ โรคไต มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก คนที่ตั้งครรภ์ จึงไม่ควรเสี่ยงซื้อยาคุมฯ มารับประทานเอง
ถ้าอยากให้มีผิวขาวใส ไม่มีสิว อยู่ที่การดูแล เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ใช้ครีมกันแดด สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิว สวมหมวก หรือกางร่มช่วยกันแดด รับประทานผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียด ไม่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่ที่มีผู้สูบบุหรี่เยอะ ดูแลระบบขับถ่ายให้ปกติ ก็จะมีผิวสวยใสได้ โดยไม่ต้องใช้ยาคุมฯ.
อภิวรรณ เสาเวียง : รายงาน
ที่มา: http://www.dailynews.co.th/article/344537
คลีนิกยา+คุณ=เรา #แล้วเราจะใกล้ชิดกันมากขึ้น
LINE ID : clinic.ya
LINE@ QR : Scan code
LINE@ ID : @clinicya.com
WEBSITE 1 : https://www.clinicya.com
WEBSITE 2 : http://wholesale.clinicya.com
LINK LINE ID : http://line.me/ti/p/mXX6jAxmR_
LINK LINE@: http://line.me/ti/p/%40clinicya.com
FANPAGE 1: https://www.facebook.com/clinicyadotcom
FANPAGE 2: https://www.facebook.com/wholesale.clinicya